ที่จะก้าวไปข้างหน้าด้วยการปรับเปลี่ยนและพัฒนาให้ตอบสนองต่อความต้องการของสังคมยุคใหม่มากขึ้น เช่น การนำเทคโนโลยีชีวภาพเข้ามาใช้ในการผลิตแก้วพลาสติกที่ทำจากวัสดุชีวภาพ เช่น PLA (Polylactic Acid) ซึ่งสกัดมาจากพืชอย่างข้าวโพดหรือมันสำปะหลัง วัสดุชนิดนี้สามารถย่อยสลายได้ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม และช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกที่สะสมในธรรมชาติได้อย่างมีนัยสำคัญ การสนับสนุนจากภาคธุรกิจในการเปลี่ยนมาใช้แก้วพลาสติกที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำหรือรีไซเคิลได้ยังเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่มีความสำคัญ
โดยการเลือกใช้แก้วพลาสติกอย่างมีความรับผิดชอบ
การเลือกแก้วที่ผลิตจากวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การนำแก้วที่ใช้ซ้ำได้มาใช้งานในชีวิตประจำวัน และการร่วมมือในการจัดการขยะพลาสติกอย่างเหมาะสม เช่น การแยกขยะที่สามารถรีไซเคิลได้หรือการส่งขยะเข้าสู่ระบบรีไซเคิลที่จัดตั้งขึ้นโดยชุมชนหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อีกหนึ่งแนวโน้มที่น่าสนใจคือ การผสมผสานระหว่างการออกแบบผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้ใช้งาน เช่น การเพิ่มฟังก์ชันพิเศษให้แก้วพลาสติก อาทิ การเคลือบวัสดุที่ช่วยรักษาอุณหภูมิของเครื่องดื่มให้อยู่ได้นานขึ้น หรือการออกแบบแก้วที่มีเซ็นเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิและเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน เพื่อแจ้งเตือนเมื่อเครื่องดื่มพร้อมดื่มหรือร้อนเกินไป
การรณรงค์เพื่อสร้างจิตสำนึกเกี่ยวกับการใช้แก้วพลาสติกอย่างยั่งยืนก็มีบทบาทสำคัญ การจัดกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การส่งเสริมให้ประชาชนนำแก้วพลาสติกมาใช้ซ้ำในกิจกรรมชุมชน การให้ความรู้เกี่ยวกับผลกระทบของขยะพลาสติก และการแนะนำวิธีลดการใช้พลาสติกแบบครั้งเดียวทิ้ง จะช่วยสร้างวัฒนธรรมการบริโภคที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้น การพัฒนาและปรับปรุงแก้วพลาสติกให้สอดคล้องกับความต้องการในยุคปัจจุบันไม่เพียงแต่ช่วยสร้างคุณค่าในด้านการใช้งาน แต่ยังเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความยั่งยืนทั้งในด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม
การทำให้แก้วพลาสติกเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวก
จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งผู้ผลิต ผู้บริโภค และหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างอนาคตที่ดียิ่งขึ้นสำหรับทุกคน ในอนาคต ความร่วมมือระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนจะเป็นหัวใจสำคัญในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้แก้วพลาสติกไปในทิศทางที่ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น การกำหนดนโยบายที่สนับสนุนการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจากรัฐบาล เช่น การลดหรือยกเว้นภาษีสำหรับผู้ผลิตที่ใช้วัสดุชีวภาพ หรือการออกมาตรการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพลาสติกยั่งยืน
นโยบายเหล่านี้จะช่วยผลักดันให้ผู้ผลิตและนักพัฒนานวัตกรรมเร่งสร้างสรรค์ทางเลือกที่ดีกว่าเดิม ในระดับองค์กร การนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการแก้วพลาสติกก็เป็นสิ่งที่เริ่มได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง โดยการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้สามารถรีไซเคิลได้ตั้งแต่ต้นทาง การจัดตั้งระบบรวบรวมแก้วพลาสติกใช้แล้วจากลูกค้าเพื่อนำกลับเข้าสู่กระบวนการผลิต รวมถึงการให้สิ่งจูงใจ เช่น ส่วนลดหรือคะแนนสะสมสำหรับลูกค้าที่นำแก้วพลาสติกกลับมาคืนที่ร้าน วิธีการเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดขยะพลาสติกในสิ่งแวดล้อม แต่ยังสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กรและเพิ่มความเชื่อมั่นในกลุ่มผู้บริโภค
