TFRS9 หรือมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 9 เป็นหนึ่งในมาตรฐานบัญชีที่มีความสำคัญอย่างมากในยุคปัจจุบัน เพราะเป็นมาตรฐานที่กำหนดหลักเกณฑ์และแนวทางในการบันทึก การวัดมูลค่า และการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องมือทางการเงินของกิจการ TFRS9 ซึ่งครอบคลุมทั้งสินทรัพย์ทางการเงินและหนี้สินทางการเงิน TFRS 9

ได้ถูกนำมาใช้เพื่อให้ข้อมูลทางการเงินสะท้อนความเป็นจริงทางเศรษฐกิจมากขึ้น มีความโปร่งใสและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล โดยเน้นการปรับเปลี่ยนจากระบบการบันทึกแบบเดิมที่อาจไม่ทันต่อสถานการณ์เศรษฐกิจและความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจริง สาระสำคัญของ TFRS 9 อยู่ที่การจัดประเภทและวัดมูลค่าสินทรัพย์ทางการเงิน ซึ่งจะแบ่งออกตามลักษณะของกระแสเงินสดและรูปแบบการบริหารจัดการสินทรัพย์

การมีมาตรฐานบัญชีที่มองไปข้างหน้าและประเมินความเสี่ยงล่วงหน้าได้

เช่น การวัดมูลค่าด้วยราคาทุนตัดจำหน่าย การวัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน และการวัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น การกำหนดประเภทดังกล่าวจะพิจารณาจากการทดสอบลักษณะของกระแสเงินสดที่เกิดจากสัญญาและโมเดลธุรกิจของกิจการ ซึ่งวิธีนี้ช่วยให้การบันทึกบัญชีมีความสอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจจริง อีกประเด็นสำคัญคือการวัดค่าเผื่อการขาดทุนด้านเครดิต ซึ่ง TFRS 9 ได้นำแนวคิด Expected Credit Loss หรือ ECL มาใช้แทนระบบเดิมที่รอให้เกิดการด้อยค่าก่อนจึงบันทึก ซึ่งวิธีใหม่นี้จะมองไปข้างหน้าและประเมินความเสี่ยง

การสูญเสียตั้งแต่เริ่มต้นการถือครองสินทรัพย์ทางการเงิน ทำให้ผู้ใช้งบการเงินได้รับข้อมูลที่สะท้อนความเสี่ยงอย่างทันเวลาและแม่นยำมากขึ้น นอกจากนี้ TFRS 9 ยังมีการปรับปรุงเรื่องการบัญชีป้องกันความเสี่ยงหรือ Hedge Accounting เพื่อให้การบันทึกผลของเครื่องมือทางการเงินที่ใช้ลดความเสี่ยงสอดคล้องกับกลยุทธ์บริหารความเสี่ยงของกิจการจริง และลดความซับซ้อนในกระบวนการจัดทำรายงานทางการเงิน การนำ TFRS 9 มาใช้ แม้จะช่วยยกระดับคุณภาพข้อมูลและความน่าเชื่อถือของงบการเงิน แต่ก็ถือเป็นความท้าทายสำหรับหลายองค์กร เพราะต้องปรับระบบงาน

TFRS9 จึงเป็นอีกก้าวที่สำคัญของระบบการรายงานทางการเงินในประเทศไทยและทั่วโลก

กระบวนการประเมินความเสี่ยง และระบบสารสนเทศให้สอดรับกับมาตรฐานใหม่นี้ ผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น ฝ่ายบัญชี ฝ่ายการเงิน และฝ่ายบริหารความเสี่ยง จำเป็นต้องทำความเข้าใจแนวคิดหลัก มาตรฐาน TFRS9 วิธีการจำแนกและวัดมูลค่า ตลอดจนการคำนวณค่าเผื่อการขาดทุนด้านเครดิตอย่างถูกต้อง ซึ่งในช่วงแรกอาจต้องใช้เวลาและทรัพยากรในการฝึกอบรมและปรับระบบอย่างมาก แต่ในระยะยาวจะช่วยให้กิจการมีข้อมูลทางการเงินที่สะท้อนสถานการณ์ได้ชัดเจน

ลดความเสี่ยงจากการตัดสินใจที่อาจผิดพลาด และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและผู้มีส่วนได้เสียมากขึ้น ดังนั้นการทำความเข้าใจ TFRS 9 จึงไม่ใช่เรื่องเฉพาะของนักบัญชีเท่านั้น แต่ผู้บริหารและผู้ใช้งบการเงินก็ควรเข้าใจสาระสำคัญของมาตรฐานนี้ เพราะเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้การสื่อสารข้อมูลทางการเงินมีความโปร่งใสและสอดคล้องกับความเป็นจริงทางเศรษฐกิจได้ดียิ่งขึ้น TFRS9 ซึ่งในโลกธุรกิจที่มีความไม่แน่นอนและความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ