ในการทำธุรกิจต้องเผชิญกับคู่แข่งอยู่เสมอ จึงทำให้เหล่าผู้ประกอบการทั้งรายเล็กรายใหญ่ต้องงัดเกมกลยุทธ์ต่างๆมาใช้ โดยกลยุทธ์ที่นำมาใช้มีมากมายหลายประเภท รวมไปถึงกลยุทธ์ที่ได้ผลดีอย่าง Fighting Brand ที่มีประสิทธิภาพและสามารถรับรู้ผลได้อย่างรวดเร็ว
การเอาชนะเกมธุรกิจของคู่แข่งไม่ใช่เรื่องง่าย ทำให้กลยุทธ์เก่าแก่อย่าง Fighting Brand ถูกนำมาใช้ หากจะอธิบายความหมายให้เข้าใจง่าย ก็คือ การที่ผู้ประกอบการมีผลิตภัณฑ์หลักอยู่แล้ว ต่อมาคู่แข่งออกผลิตภัณฑ์ใหม่มาต่อสู้โดยผลิตภัณฑ์นั้นมีลักษณะใกล้เคียงกัน และราคาถูกกว่า มีฐานผู้บริโภคมากทำให้แย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดไปมากพอสมควร ผู้ประกอบการจึงจับเป็นต้องมีกลยุทธ์เพื่อป้องกันฐานลูกค้า ซึ่งหากเปลี่ยนคุณสมบัติหรือราคาก็ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องนัก เพราะผลิตภัณฑ์เดิมก็ได้รับการยอมรับอยู่แล้ว หากเปลี่ยนแปลงอาจทำให้เสียฐานลูกค้าเดิมได้ ดังนั้นการสร้างผลิตภัณฑ์ขึ้นมาใหม่จึงเป็นแนวทางที่ดีที่สุด ในขณะเดียวกันผลิตภัณฑ์ใหม่ต้องไม่กระทบกับผลิตภัณฑ์หลักของผู้ประกอบการด้วย กลยุทธ์รูปแบบนี้จึงเรียกว่า Fighting Brand
Fighting Brand ถือเป็นกลยุทธ์ที่ชัดเจนมากในการโจมตีคู่แข่ง โดยใช้ผลิตภัณฑ์ในการต่อสู้ และที่สำคัญเรื่องราคาที่ถูกกว่าโจมตีคู่ต่อสู้ ทำให้สูญเสียลูกค้า รายได้ลดลงกว่าเดิม จนอาจทำให้คู่แข่งต้องปรับแผนทางธุรกิจ และมีภาระด้านค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น อีกทั้งยังเสียเวลาในการทำกำไรอีกด้วย
การใช้ผลิตภัณฑ์ต่อสู้กับเกมกลยุทธ์ จะช่วยสกัดคู่แข่งไม่ให้ก้าวล้ำเข้ามากินส่วนแบ่งทางการตลาดของผู้ประกอบการ การที่สินค้าของคู่แข่งมีคุณสมบัติใกล้เคียงและที่สำคัญคือราคาถูกกกว่าจะทำให้ฐานลูกค้าของผู้ประกอบการค่อยๆ ไหลไปหาคู่ต่อสู้ ซึ่งจะสร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก
การนำผลิตภัณฑ์ใหม่ออกไปต่อสู้กับคู่แข่งทางธุรกิจ ประกอบการจำเป็นต้องพิจารณาไตร่ตรองให้ดี ต้องมองสถานการณ์รอบข้างขณะนั้นว่ามีความเหมาะสมมากแค่ไหนกับการใช้กลยุทธ์ Fighting Brand ดังกล่าว และที่สำคัญควรคำนึงและนึกถึงด้วยว่า Fighting Brand ที่ออกมานั้นต้องไม่กลับมาแย่งส่วนต่างผลกำไรของผลิตภัณฑ์หลักซึ่งเป็นสินค้าระดับพรีเมี่ยมของผู้ประกอบการเองด้วย การใช้กลยุทธ์ Fighting Brand จึงจะเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จแล้ว